“สวัสดีตอนเช้าค่ะ พ่อ” สาวน้อยตาโตเกาะอยู่ที่ราวบันไดทักทายกับพ่อของเธอที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ที่ชั้นล่าง
“สวัสดีจ๊ะ” เขายิ้มรับคำทักทายของเธอก่อนยุ่งกับอาหารที่ยังตระเตรียมไม่เสร็จ
“หนูไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ พ่อ”   
“จ๊ะ”
    ชาลีต้องรีบออกไปทำงานจึงต้องรีบเตรียมอาหารมื้อเช้าด้วยความรวดเร็ว ขนนปัง เนยถั่ว แยมถูกวางอยู่บนโต๊ะ  ชาลีเดินไปแปะกระดาษที่ตู้เย็นก่อนจะหยิบกระเป๋าเอกสารออกจากบ้านไป
    แองเจลลาค่อยๆเดินลงมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ  เธอมองดูข้าวของที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นกระดาษข้อความที่ตู้เย็น เป็นสิบๆแผ่น  เธอมองไปเห็นแผ่นหนึ่งที่ดูเหมือนจะใหม่ที่สุด
                                      ‘วันนี้พ่ออาจจะกลับเย็น ไม่ต้องคอย
                                                                            คิดถึง ..................... ’
    สาวน้อยจัดการขนมปัง2ชิ้น พร้อมนมในตู้เย็นแล้วเธอก็เก็บข้าวของที่อยู่บนโต๊ะจนเรียบร้อยในเวลาไม่นาน ไม่นานก็มีเสียงกดกริ่ง  แม้เธอจะสงสัยเล็กน้อยแต่ก็จำต้องเดินไปเปิดประตูตามระเบียบในคงเธอคิดว่าคงเป็นพ่อของเธอที่ลืมเอกสารไว้ที่บ้านซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก  เมื่อประตูถูกเปิดออกเธอได้พบกับชายหนุ่มวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างท้วมยืนคอยอยู่ที่หน้าประตู  เธอยิ้มเป็นการทักทายชายที่อยู่หน้าประตู
“พ่อหนูไม่อยู่หรือจ๊ะ”
“เอ่อ...” แองเจลลายิ้มเฝื่อนๆไปเล็กน้อย
“ขอลุงเข้าไปบ้านหน่อยนะจ๊ะ” 
    เขามองซ้ายมองขวาก่อนเอามือปิดปากของเด็กแล้วอุ้มเข้าไปในบ้านสาวน้อยดิ้นอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะให้หลุดจากพันธนาการ เธอยังดิ้นต่อไปเรื่อยๆ  ชายคนนั้นกดเธอลงกับโซฟากลางห้อง น้ำหนักของชายร่างท้วมกดลงที่ตัวของเด็กสาวตัวเล็กๆ  ร่างที่ดิ้นเริ่มที่จะเบาลง มือของชายยังอยู่ที่ปากของแองเจลลา  เรี่ยวแรงในการต่อสู้ของเด็กสาวเริ่มน้อยลงทุกที ออกซิเจนที่จะหล่อเลี้ยงสมองน้อยเริ่มที่จะไม่พอ น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตา ดวงตาเริ่มอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต  ชายคนนั้นยังไม่ละมือออกจากปากของเธอ ร่างที่ใหญ่โตยังอยู่บนตัวของเด็กน้อย  ร่างที่ไร้ความรู้สึกไปแล้ว  ไม่มีปฏิกิริยาใดๆแล้ว  สาวน้อยที่สดใสบัดนี้กลายเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ ดวงตาที่เบิกโพลงมีน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่เล็กน้อย  ที่ริมฝีปากมีสีแดงเปรอะเปื้อน.....  เขาละออกจากร่างของสาวน้อยแล้วกวาดสายตามองดูบริเวณภายในบ้าน บางทีเขาน่าจะหยิบสิ่งของสักสองสามชิ้นหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่ไม่เลยเขาเดินออกจากบ้านโดยไม่มีสิ่งใดติดมือออกไปเลยยกเว้นเลือดที่ติดอยู่ที่มือของเขา   
    ชาลีนั่งทำงานอยู่บนกองโต๊ะเอกสารที่วางกองอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ เสียงโทรศัพท์ของโต๊ะทำงานข้างๆดังไม่หยุด นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก  ประกอบกับการที่มีคนชนกองเอกสารบนโต๊ะล้มไปกระจัดกระจายอยู่บนพื้น 
“ขอโทษค่ะ”หล่อนหันมาบอกกับชาลีที่ทำหน้าเซ็งอยู่บนเก้าอี้
“ไม่เป็นไรครับ” บางทีเขาอยากที่จะตะโกนด่าให้สุดเสียงด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แต่คงเป็นเพราะเธอเป็นสุภาพสตรีที่สวยงามน่ารัก เขาจึงไม่มีทางเลี่ยงในการก้มลงไปช่วยเก็บเอกสารของตัวเอง
“ของโทษจริงๆนะค่ะ”เธอพูดพร้อมยื่นเอกสารส่วนสุดท้ายให้
    ชาลีมองหล่อนเดินจากไปจนสุดสายตา จนกระทั่งเพิ่งจะรู้ตัวว่ามีเสียงโทรศัพท์ที่ดังมาตั้งนานเป็นของเขา
“สวัสดี  ชาลีพูดครับ”
    สีหน้าของชาลีเปลี่ยนไปทันทีที่เสียงจากหูโทรศัพท์พูดมา หูโทรศัพท์หลุดออกจากมือชาลี เขาหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้างล่างแล้วรีบวิ่งออกจากสำนักงานทันที  ผู้คนที่ทำงานกันอย่างสับสนวุ่นวายหยุดชะงักชั่วคราวทันทีที่เห็นชาลีวิ่งออกไป แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็กลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ...
    ตอนนี้หน้าบ้านของเขาเต็มไปด้วยชาวบ้านใกล้เคียงที่เดินออกมาดูอย่างสงสัยและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่กลับเพิ่มมากขึ้นทุกที รถพยาบาล รถตำรวจสองถึงสามคันจอดอย่างไม่เป็นระเบียบอยู่หน้าบ้านของเขา  เขาแหวกฝูงชนก่อนวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน  ภาพที่เห็นคือร่างของแองเจลลาห้อยหัวลงมาจากโซฟาเล็กน้อย  เลือดที่เริ่มแข็งตัวติดอยู่บริเวณปากของเธอ  ชาลีทรุดตัวลงกับพื้น
“โชคดีนะครับที่ฝั่งตรงข้ามบ้านคุณติดกล้องวีดีโอเอาไว้”ตำรวจนายหนึ่งพูดออกมาหลังเห็นชาลีทรุดลงไป
    ชาลีมองหน้าตำรวจ ด้วยความเคียดแค้น ‘โชคดีงั้นหรือ การที่ลูกสาวของผมตายไปคุณบอกว่าโชคดีงั้นหรือ’ แต่เขาก็ไม่มีแรงเหลือที่จะพูดออกไปแล้ว ทั้งกายและใจของเขาไม่เหลือสิ่งใดแล้ว น้ำตาหล่อเลี้ยงดวงตาของชาลีเพิ่มขึ้นทุกที
“ทางเราสันนิษฐานว่าเลือดบริเวณนี้น่าจะเป็นของคนร้ายน่ะครับ”ก่อนที่ตำรวจอีกนายจะชี้ไปบริเวณริมฝีปากของสาวน้อย
“ทางเราก็ส่งไปตรวจก่อนหน้านี้แล้วครับ”เขาพูดต่อ
    ตอนนี้ทางตำรวจกำลังตรวจดูวีดีโอเทปที่ได้  เริ่มถึงจุดน่าสนใจซะแล้ว  ตำรวจสี่ห้านายที่ยืนอยู่บริเวณนั้นจ้องมองภาพที่กำลังจะปรากฏ  แม้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ทุกคนต่างเริ่มรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้านหลังนั้น 
    ชาลีเริ่มรู้ตัว ไม่รู้ว่ามีสิ่งอะไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาควรที่จะพักผ่อนแต่ก็ไม่ ชาลีลุกขึ้นนั่งบนโซฟาตัวเล็กอีกตัวของที่เกิดเหตุ จ้องมองดูรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนโซฟาอีกตัว  เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น ...
    ตอนนี้ชาลีนั่งซึมๆอยู่ที่สถานีตำรวจ ด้านหน้ามีตำรวจสองนายที่ยืนอยู่
“ผลสรุปคือว่า เลือดที่ได้จากที่เกิดเหตุเป็นของคนร้าย เกิดจากการที่หนูน้อยกัดที่ฝ่ามือของคนร้ายอย่างนั้นแน่นอนครับ”ตำรวจที่ดูยศสูงกว่าพูดออกมาก่อนจะหยุดพักหายใจ
    ส่วนตำรวจอีกนายหนึ่งเดินไปเปิดเครื่องเล่นวีดีโอ ภาพดำเนินเหตุการณ์มาเรื่อยๆจนพบว่าเมื่อชาลีเพิ่งเดินออกจากบ้านนั้นทุกอย่างก็หยุดลง  ชาลีหันไปมองตำรวจผู้ที่ควบคุมรีโมทอย่างสงสัย
“ภาพต่อไปคือคนที่เราคิดว่าเป็นคนร้ายอย่างแน่นอนครับ” และเขาก็ชี้รีโมทให้ชาลีตั้งใจดูโทรทัศน์
    .....ชาลีถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น  ภาพที่เกิดขึ้นราวกับถูกคนจัดฉากขึ้นมา  ชาลีรู้สึกปวดที่หัวใจของเขา เขาไม่อยากเชื่อมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือ เลือดเริ่มซึมออกมาจากแผลที่เกิดจากการโดนใครบางคนกัด  ทุกสิ่งในหัวของเขาดูปั่นป่วนไปหมด อาจเป็นเพราะภาพที่เขาเห็นคือคนร้ายกําลังเดินเข้าไปในบ้านของเขานั้น 
เป็นตัวของเขาเอง.....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น